Present Tense : Present Simple

1. Present Tense ปัจจุบันกาล
1.1 Simple Present  ( ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + ... )
โครงสร้าง : Subject + V.1 + ...

โดยมีกฏการใช้กริยาให้สอดคล้องกับประธานโดยทั่วไปดังนี้
1. ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 คือ He, She, It หรือคำนามที่สามารถใช้สรรพนามแทนได้ ต้องเติม s
• She walks. • Somsri walks. • He runs. • Somchai runs.

2. ประธานที่เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 และ 2 คือ I, You, We, They หรือคำอื่นๆ ที่สามารถใช้แทนด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1 และ 2 ให้ใช้กริยารูปแบบปกติ
• I go. 
• We study. • They come. • Birds sing.

กฏการเติม S ที่คำกริยา
1. เติม s ที่ท้ายคำกริยานั้นๆ คำกริยาโดยทั่วไปสามารถเติม s ได้เลย เช่น 
helps, moves, sleeps, walks, writes

2. กริยาที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x o, z ให้เติม es เช่น
go-goes, kiss-kisses, pass-passes, push-pushes, teach-teaches

3. กริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น
cry-cries, fly-flies, study-studies

แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ คือ a, e, i, o , u ให้เติม s ได้เลย เช่น
enjoy-enjoys, play-plays, stay-stays

หลักการใช้ Tense นี้คือ
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริง เป็นกฏตายตัว เช่น
• It is hot in summer (อากาศร้อนในฤดูร้อน)
• The sun rises in the East and sets in the West.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)

2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำสม่ำเสมอ เป็นนิสัย เช่น
• I get up early every day. (ฉันตื่นเช้าทุกวัน)
• Somsri always goes shopping on Sunday. (สมศรีไปซื้อของในวันอาทิตย์เสมอ)

ข้อสังเกต
1. ประโยคเหล่านี้มักจะมีคำที่แสดงถึงความบ่อยหรือความเป็นประจำเช่น every day (ทุกๆวัน), every week (ทุกอาทิตย์), once a year (ปีละครั้ง), regularly (ประจำ)

2. ประโยคมักใช้ always (เสมอๆ), frequently (เสมอๆ, บ่อยๆ), ofen (บ่อยๆ), usually (โดยปกติ), rarely (ไม่บ่อย, ไม่ใคร่จะ), never (ไม่เคย) ซึ่งคำเหล่านี้เป็น adverb of frequency ในประโยค มีวิธีการใช้ดังนี้

2.1 วางไว้หน้ากริยาแท้ทั่วไป (ที่ไม่ใช่ verb to be) เช่น
• She always goes to department store. (เธอไปห้างสรรพสินค้าเสมอๆ)

2.2 วางไว้หลัง verb to be (is/am/are/was/were) เช่น
• I am never late for English class. (ฉันไม่เคยไปเรียนสายในชั่วโมงภาษาอังกฤษ)

2.3 อยู่หลังคำว่า not, must, can, could, may, must เช่น
• Somchai does not often go out. (สมชายออกไปข้างนอกไม่บ่อยนัก)

3. ใช้กับการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ส่วนมากใช้กับการเดินทางหรือแผนการ) เช่น
• He leaves for New York next month. (เขาจะไปนิวยอร์คเดือนหน้า)
• We go to Samui Island next vacation. (เราจะไปเกาะสมุยในวันหยุดครั้งหน้า)

"Summer Vacation, 1934", June 30,1934  by Norman Rockwell

*Footnote : TENSES และกริยา 3 ช่อง โดยสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น; พิมพ์ครั้งที่ 2: สิงหาคม 2540